หน้าแรก2025-10-08T22:51:34+07:00

หจก. เอราวัณ บิลดิ้ง ซัพพลาย บริการพ่นฉนวนพียูโฟม ดูบริการทั้งหมด กันร้อน กันเสียง กันรั่วซึม pufoam

ด้วยประสบการณ์ฉนวนพียูโฟม กว่า 20 ปี 7,000 กว่าผลงาน
เรากล้าการันตี รับประกัน คุณภาพในทุกงาน

รับติดตั้งฉนวนพียูโฟม PU Foam Rigid Polyurethane Foam ทั่วประเทศ ฉนวนพียูโฟมสามารถป้องกันความร้อน กันเสียง กันรั่วซึม น้ำหนักเบา

เราเป็นผู้นำด้านการผลิตและติดตั้งฉนวนกันความร้อนและฉนวนกัน เสียง สำหรับโรงงาน โกดัง ห้องเย็น และอาคารทุกประเภท พร้อมบริการ พ่นฉนวนโดยทีมงานมืออาชีพกว่า 20 ปี ได้รับความไว้วางใจจากวิศวกร สถาปนิก และบริษัทชั้นนำ มั่นใจในคุณภาพผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัย พร้อมรับประกันผลงานและบริการหลังการขาย

สนใจบริการพียูโฟม
หรือสอบถามราคาได้เลยที่นี่

รวมบริการพียูโฟม ครบคลุมทุกประเภทความต้องการ

เลือกประเภทการติดตั้งพียูโฟมตามสถานที่ และอุปกรณ์ที่คุณต้องการติดตั้ง

พ่นฉนวนพียูโฟม

PU Foam Insulation

พ่นฉนวนพียูโฟม สำหรับหลังคา

Roof Insulation

พ่นโฟมโรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้า

Factory & Warehouse Insulation

พ่นฉนวนพียูโฟม ห้องเย็น และรถเก็บ ความเย็น

Cold Storage & Freezer & Refrigerated Truck Insulation

พ่นฉนวนพียูโฟม สำหรับฟาร์ม และ โรงเรือนเลี้ยงสัตว์

Farm & Livestock Insulation

พ่นฉนวนพียูโฟมใน งานทางน้ำ

Marine & Floating Insulation

พ่นโฟมสำหรับงานก่อสร้าง และหินเทียม

Construction Artificial Rock Insulation

พ่นฉนวนพียูโฟมกัน เสียง สำหรับผับ บาร์ คาราโอเกะ

Soundproofing Insulation for Pubs Bars

บริการเพิ่มเติม

Additional Services

จำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ฉนวนพียูโฟม

PU Foam Products & Accessories

pufoam
pufoam

สนใจบริการพียูโฟม
หรือสอบถามราคาได้เลยที่นี่

รีวิวผลงานลูกค้าจริง

ทุกผลงานการันตีคุณภาพ ทำด้วยช่างมีประสบการณ์โดยเฉพาะ

เคลียร์ทุกคำถามคาใจก่อนตัดสินใจพ่นพียูโฟม

เราคิดค่าบริการเป็นตารางเมตร (ตร.ม.) เพื่อให้คุณได้รับราคาที่สมเหตุสมผลและคุ้มค่าที่สุด โดยราคาจะขึ้นอยู่กับประเภทการใช้งานและความหนาที่เหมาะสมกับพื้นที่ของคุณ ดังนี้ครับ

  • งานพ่นหลังคา (กันความร้อน) : ทำให้บ้านเย็น ประหยัดค่าแอร์
    • ความหนา 1 นิ้ว (ประมาณ 2.5 ซม.) เริ่มต้น 220 บาท/ตร.ม.
  • งานพ่นดาดฟ้า (กันรั่วซึม) : แก้ปัญหาเด็ดขาด ป้องกันระยะยาว
    • ความหนา 2 นิ้ว (ประมาณ 5 ซม.) เริ่มต้น 370 บาท/ตร.ม.
  • งานพ่นผนัง (กันเสียงรบกวน) : เพิ่มความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ
    • ความหนา 2 นิ้ว (ประมาณ 5 ซม.) เริ่มต้น 350 บาท/ตร.ม.

ราคานี้เป็นราคาเบื้องต้นที่ รวมค่าวัสดุเกรดพรีเมียมและค่าแรงทีมช่างมืออาชีพ แล้วครับ ทั้งนี้ราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนตามขนาดพื้นที่จริงและสภาพหน้างาน เพื่อให้เหมาะสมกับบ้านของคุณมากที่สุด

ความแข็งของฉนวน PU Foam ถูกออกแบบมาให้แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานแต่ละประเภทโดยเฉพาะครับ

  1. สำหรับงานหลังคาและดาดฟ้า (กันร้อน/กันรั่ว)
  • ความแข็ง: แข็งแกร่ง ทนทาน และ สามารถเดินได้
  • คำอธิบาย: เนื้อโฟมชนิดนี้ถูกออกแบบให้มีความหนาแน่นสูง เมื่อแห้งตัวเต็มที่แล้วจะแข็งแรงพอที่คนจะสามารถขึ้นไปเดินเพื่อซ่อมบำรุงได้ (บนโครงสร้างที่แข็งแรง) จึงทนทานต่อสภาพอากาศและใช้งานในพื้นที่ภายนอกได้เป็นอย่างดี (ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก แต่ภายนอกจำเป็นต้องทำสีป้องกันแสงยูวีให้กับหน้าโฟมเพื่อป้องกันไม่ให้โฟมเสื่อมสภาพเร็ว)
  1. สำหรับงานผนัง (กันเสียง)
  • ความแข็ง: คงรูป แต่มีความยืดหยุ่นและนุ่มกว่า
  • คำอธิบาย: ลักษณะจะคล้ายฟองน้ำอัดแน่น มีความยืดหยุ่นเพื่อทำหน้าที่ดูดซับคลื่นเสียงโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยลดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เราเลือกใช้ชนิดโฟมที่มีความแข็งเหมาะสมกับหน้างานเสมอ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ในประสิทธิภาพสูงสุดตามที่ต้องการครับ 

(หรือสามารถใช้แบบผสมผสานกันได้ทั้งแบบ โฟมแข็งป้องกันเสียง โฟมนิ่ม ซัพเสียงก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพสูงครับ)

เพื่อให้คุณลูกค้าเข้าใจในผลิตภัณฑ์อย่างครบถ้วน และมั่นใจในการตัดสินใจ เราขอให้ข้อมูลในประเด็นสำคัญที่ควรทราบก่อนการติดตั้ง ดังนี้ครับ

 

  1. การป้องกันผิวหน้าโฟมจากแสงแดด (UV)

โดยธรรมชาติแล้ว เนื้อโฟมจะไม่ทนต่อรังสียูวีโดยตรง ดังนั้นสำหรับงานภายนอก เช่น ดาดฟ้า จึงจำเป็นต้องมีการทาเคลือบผิวหน้า (Top Coat) ที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีทับอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นขั้นตอนมาตรฐานในงานของเราเพื่อปกป้องและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด

 

  1. คุณภาพของงานขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของช่าง

การพ่น PU Foam เป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยประสบการณ์สูง ตั้งแต่การผสมเคมีไปจนถึงเทคนิคการพ่นให้ได้ความหนาที่สม่ำเสมอ ดังนั้น การเลือกใช้บริการจากทีมช่างมืออาชีพและเชื่อถือได้ คือหัวใจสำคัญที่สุดที่จะรับประกันประสิทธิภาพของงาน

 

  1. เป็นการติดตั้งแบบถาวรเพื่อการใช้งานระยะยาว

เนื่องจาก PU Foam มีคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม การติดตั้งจึงเป็นการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว ที่คุ้มค่าสูงสุด

 

  1. อาจมีกลิ่นชั่วคราวหลังการติดตั้ง

หลังการฉีดพ่นเสร็จใหม่ๆ เป็นปกติที่อาจมีกลิ่นสารเคมีอยู่บ้าง ซึ่งกลิ่นเหล่านี้จะค่อยๆ จางและหายไปเองภายใน 1-2 วัน เพียงแค่มีการเปิดระบายอากาศในพื้นที่อย่างเพียงพอครับ

 

การให้ข้อมูลที่ครบถ้วนคือหน้าที่ของเรา เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับการติดตั้งที่มีคุณภาพและคุ้มค่าที่สุด

โดยทั่วไป ฉนวน PU Foam มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก เฉลี่ย 15-20 ปีขึ้นไป หากติดตั้งอย่างถูกวิธีและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

 

ความทนทานนี้มาจากคุณสมบัติหลัก 3 ประการ

 

การยึดเกาะดีเยี่ยม : เนื้อโฟมจะผสานเป็นเนื้อเดียวกับโครงสร้างเดิม ไม่ร่อน และไม่หลุดลอก

 

ไม่ยุบตัว ไม่เสื่อมสภาพ : โฟมจะคงความหนาและรูปทรงไว้ตลอดอายุการใช้งาน ทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันคงที่

 

ทนทานต่อความชื้น : ไม่ดูดซับน้ำ จึงไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา

 

ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาโดยการทาสีเคลือบดังกล่าวใหม่ ทุกๆ 10-15 ปี เพื่อยืดอายุการใช้งานและคงประสิทธิภาพสูงสุดไว้ครับ

สำหรับงานหลังคาและดาดฟ้า เราใช้โฟมชนิดเซลล์ปิดซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือกันน้ำได้สมบูรณ์แบบ 100% และไม่ดูดซับความชื้น
โดยทั่วไป เนื้อฉนวน PU Foam ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อความร้อนต่อเนื่องได้ สูงสุดประมาณ 80 – 100 องศาเซลเซียส โดยไม่เสียรูปทรงหรือละลายครับ

 

ซึ่งอุณหภูมิดังกล่าวสูงกว่าความร้อนสะสมบนพื้นผิวหลังคาโดยทั่วไปในวันที่แดดจัดที่สุดของประเทศไทย คุณจึงมั่นใจได้ว่าฉนวน PU Foam จะคงสภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนได้อย่างเต็มที่ตลอดอายุการใช้งาน

ราคาการติดตั้งจะคิดเป็นต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ซึ่งจะแปรผันตามความหนาและประเภทการใช้งาน เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข โดยมีราคาประเมินเบื้องต้นดังนี้ครับ:

  • งานพ่นหลังคา (เน้นกันความร้อน)

    • ความหนา 1-2 นิ้ว: ราคาประมาณ 220 – 450 บาท/ตร.ม.

    • (โดยเฉพาะความหนา 2 นิ้ว เป็นขนาดที่ให้ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุด)

  • งานพ่นดาดฟ้า (เน้นกันรั่วซึมและความร้อน)

    • ความหนา 2-3 นิ้ว: ราคาประมาณ 350 – 600 บาท/ตร.ม.

ข้อควรทราบ: ราคาดังกล่าวเป็นราคาประเมินเบื้องต้นเท่านั้น ราคาจริงจะขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่โดยรวม (ยิ่งพื้นที่มาก ราคาต่อหน่วยอาจถูกลง) และสภาพความยากง่ายของหน้างาน

เพื่อให้ได้ราคาที่แม่นยำที่สุดสำหรับบ้านของคุณ เราแนะนำให้ติดต่อทีมงานเพื่อเข้าประเมินหน้างานและรับใบเสนอราคาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่มีข้อผูกมัดใดๆ

สามารถติดต่อได้ทันทีผ่าน LINE: @pufoamthai หรือ โทร. 086-428-0482 ครับ

สรุป 5 ข้อดีหลักของ PU Foam

ฉนวน PU Foam มอบคุณประโยชน์ที่ครอบคลุมให้กับการอยู่อาศัยของคุณ ดังนี้:

 

  1. กันร้อนเยี่ยม และช่วยประหยัดค่าไฟ

ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันความร้อนจากภายนอก ทำให้บ้านเย็นลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงและช่วยประหยัดค่าไฟได้จริง

 

  1. ป้องกันการรั่วซึม 100%

ด้วยเทคโนโลยีการพ่นที่ทำให้เนื้อโฟมเป็นชิ้นเดียวกัน ไร้รอยต่อ จึงสามารถอุดรอยรั่วซึมได้อย่างสมบูรณ์แบบ หมดปัญหาน้ำและความชื้นกวนใจ

 

  1. ลดเสียงรบกวนจากภายนอก

เนื้อโฟมช่วยดูดซับและลดทอนเสียง ทำให้บ้านเงียบสงบขึ้นอย่างรู้สึกได้ เหมาะสำหรับลดเสียงฝนที่ตกกระทบหลังคา หรือเสียงรบกวนรอบข้าง

 

  1. ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน

เนื้อโฟมมีความแข็งแรง ไม่ยุบตัว และใช้งานได้ยาวนาน 15-20 ปีขึ้นไป ถือเป็นการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่า

 

  1. น้ำหนักเบา ไม่เป็นภาระอาคาร

ถึงแม้จะแข็งแรงทนทาน แต่ PU Foam มีน้ำหนักเบามาก จึงไม่สร้างภาระเพิ่มเติมและไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเดิมของอาคาร

สำหรับงานพ่นฉนวน PU Foam “ยี่ห้อ” ของน้ำยาเคมีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณภาพเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญที่แท้จริงซึ่งเรายึดมั่น คือส่วนประกอบ 2 อย่างที่ต้องทำงานร่วมกัน

 

วัตถุดิบคุณภาพสูง: เราคัดสรรน้ำยาเคมีเกรดพรีเมียมนำเข้าจากต่างประเทศที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดทั้งในด้านการยึดเกาะและความทนทาน ที่สำคัญคือไม่ลามไฟ

 

ความเชี่ยวชาญในการติดตั้ง: ทีมช่างมืออาชีพคือผู้ที่เปลี่ยนวัตถุดิบที่ดีให้กลายเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การเตรียมพื้นผิว การผสมสูตร ไปจนถึงเทคนิคการพ่นที่ได้มาตรฐาน

 

เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือ ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและแก้ปัญหาได้จริง เราจึงมุ่งเน้นที่มาตรฐานการทำงานของเราเป็นสำคัญที่สุด

โดยทั่วไป ฉนวน PU Foam มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก เฉลี่ย 15-20 ปีขึ้นไป ความทนทานที่เป็นเลิศนี้มาจากปัจจัยสำคัญ 4 ประการ

 

  1. การยึดเกาะดีเยี่ยม

เนื้อโฟมจะผสานเป็นเนื้อเดียวกับโครงสร้างเดิมอย่างสมบูรณ์ ทำให้ไม่เกิดการยุบตัว ไม่ร่อน และไม่หลุดลอกตลอดอายุการใช้งาน

 

  1. ทนทานต่อความชื้นและน้ำ

โฟมชนิดเซลล์ปิด (Closed-Cell) ที่ใช้ในงานหลังคาและดาดฟ้า มีคุณสมบัติกันน้ำ 100% จึงไม่ดูดซับความชื้นและไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา

 

  1. คงรูป ไม่เสื่อมสภาพ

โฟมจะคงความหนาและรูปทรงไว้ได้คงที่ ทำให้ค่าความเป็นฉนวนไม่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพการป้องกันจึงสม่ำเสมอ

 

  1. การปกป้องผิวหน้าด้วย Top Coat

สำหรับงานภายนอก การเคลือบผิวหน้าด้วยสีป้องกันรังสียูวี (UV) คือขั้นตอนมาตรฐานที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยปกป้องเนื้อโฟมจากการเสื่อมสภาพและรับประกันความทนทานในระยะยาว

 

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ คุณจึงมั่นใจได้ว่าการติดตั้ง PU Foam คือการลงทุนที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าและทนทานครับ

เพื่อให้การแก้ปัญหาของคุณตรงจุดที่สุด การเลือกชนิดของฉนวน PU Foam ให้เหมาะสมกับงานเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งมี 2 ประเภทหลัก ดังนี้ครับ

  1. โฟมเซลล์ปิด (Closed-Cell)

เป็นฉนวนชนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะแก้ปัญหาหลักของบ้านได้อย่างครอบคลุม

  • คุณสมบัติเด่น : เนื้อโฟมมีความแข็งแรงและแน่นเป็นพิเศษ สามารถป้องกันได้ทั้งความร้อนและป้องกันน้ำซึมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  • เหมาะกับงาน :
    • พ่นใต้หลังคา/ดาดฟ้า : เพื่อป้องกันความร้อน ทำให้บ้านเย็นและประหยัดค่าไฟ
    • งานแก้ปัญหารั่วซึม : สามารถอุดรอยร้าวและเป็นเกราะป้องกันน้ำได้ 100%
  1. โฟมเซลล์เปิด (Open-Cell)

ออกแบบมาเพื่องานป้องกันเสียงโดยเฉพาะ โดยสามารถลดเสียงสะท้อนและกันเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม

  • คุณสมบัติเด่น : เนื้อโฟมมีความนุ่มและโปร่งคล้ายฟองน้ำ จึงสามารถดูดซับเสียงได้ดีเยี่ยม ช่วยลดเสียงก้องและเสียงรบกวนจากภายนอก
  • เหมาะกับงาน:
    • พ่นผนังกันเสียง: สำหรับห้องนอน, โฮมเธียเตอร์, ห้องซ้อมดนตรี หรือห้องทำงานที่ต้องการความเงียบและเป็นส่วนตัว
ฉนวน PU Foam ไม่ได้มีดีแค่เรื่องกันร้อน แต่ยังมอบคุณประโยชน์ที่ครอบคลุมในด้านอื่นๆ ให้กับอาคารของคุณดังนี้:

  1. กันร้อนเยี่ยม และช่วยประหยัดค่าไฟ ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันความร้อนจากภายนอก ทำให้อุณหภูมิในบ้านเย็นลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงและช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้จริง
  2. ป้องกันการรั่วซึม 100% ด้วยเทคโนโลยีการพ่นที่ทำให้เนื้อโฟมเป็นชิ้นเดียวกัน ไร้รอยต่อ จึงสามารถอุดรอยแตกร้าวเล็กๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หมดปัญหาน้ำรั่วซึมกวนใจ
  3. ลดเสียงรบกวนจากภายนอก เนื้อโฟมทำหน้าที่ช่วยดูดซับเสียง ทำให้บ้านเงียบสงบขึ้นอย่างรู้สึกได้ เหมาะสำหรับลดเสียงฝนที่ตกกระทบหลังคา หรือเสียงรบกวนรอบข้าง
  4. เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้าง ในโฟมชนิดเซลล์ปิด (Closed-Cell) เนื้อโฟมจะช่วยยึดเกาะและเพิ่มความแข็งแรงให้กับวัสดุเดิม เช่น โครงหลังคาหรือผนังให้มั่นคงยิ่งขึ้น
  5. น้ำหนักเบา ไม่กระทบตัวบ้าน ถึงแม้จะแข็งแรงทนทาน แต่ PU Foam มีน้ำหนักเบามาก จึงไม่สร้างภาระเพิ่มเติมและไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเดิมของอาคาร

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ การติดตั้ง PU Foam จึงไม่ใช่แค่การแก้ปัญหา แต่คือการลงทุนเพื่อบ้านที่ดีกว่าในระยะยาวครับ

PU Foam ถูกออกแบบมาให้เป็นการติดตั้งแบบถาวรเพียงครั้งเดียว เมื่อฉีดพ่นแล้ว เนื้อโฟมจะยึดเกาะเป็นเนื้อเดียวกับโครงสร้างเดิม ทำให้มีความคงทนและอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก จึงไม่สามารถรื้อถอนเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้

เราเชื่อว่าผลงานที่มีคุณภาพและทนทาน มาจากปัจจัยสำคัญ 2 ส่วน คือ วัสดุที่ดีที่สุด และทีมติดตั้งที่เชี่ยวชาญที่สุด ซึ่งคุณสามารถมั่นใจในบริการของเราได้จากมาตรฐาน 3 ข้อนี้ครับ:

1. ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เราใช้ทีมช่างของเราเองที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ในงานพ่น PU Foam โดยตรง คุณจึงมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมผิวไปจนถึงการควบคุมความหนา จะถูกดำเนินการอย่างแม่นยำตามมาตรฐานสูงสุด

2. เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เราลงทุนในเครื่องจักรแรงดันสูงที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เนื้อโฟมผสมตัวได้อย่างสมบูรณ์ มีความหนาแน่นสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่ติดตั้ง และยึดเกาะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

3. การรับประกันผลงานที่ชัดเจนและยาวนาน เพื่อเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพและสร้างความอุ่นใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า การรับประกันผลงานของเราจึงครอบคลุมเป็นระยะเวลายาวนานถึง 10 ปี 

เพราะเราไม่ได้แค่ “ติดตั้ง” แต่เรา “ส่งมอบมาตรฐานที่ดีที่สุด” ให้กับคุณ

คำตอบคือ ไม่กินครับ

เนื่องจาก PU Foam เป็นวัสดุสังเคราะห์ทางเคมี (Polymer) จึงไม่มีส่วนประกอบของเซลลูโลสซึ่งเป็นอาหารหลักของปลวก ทำให้ตัวโฟมเองไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูดปลวก

ใช่ครับ PU Foam เป็นฉนวนป้องกันเสียงที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเราจะเลือกใช้โฟมให้เหมาะกับประเภทของเสียงที่ต้องการป้องกัน ดังนี้ครับ

 

  1. โฟมเซลล์เปิด (Open-Cell): สำหรับ “การดูดซับเสียง”

ด้วยโครงสร้างที่โปร่งคล้ายฟองน้ำ จึงทำหน้าที่ดูดซับคลื่นเสียงที่ลอยในอากาศได้ดีเยี่ยม ช่วยลดเสียงก้องและเสียงพูดคุย

  • เหมาะสำหรับ: ผนังกั้นห้อง, ห้องนอน, ห้องทำงาน, หรือโฮมเธียเตอร์
  1. โฟมเซลล์ปิด (Closed-Cell): สำหรับ “การลดเสียงกระทบ”

ด้วยเนื้อโฟมที่แข็งและหนาแน่น จะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงที่เกิดจากวัตถุที่มากระทบโดยตรง

  • เหมาะสำหรับ: พ่นใต้หลังคาเมทัลชีท เพื่อลดเสียงดังเวลาฝนตกกระทบ

การเลือกใช้ชนิดโฟมที่ถูกต้องตามลักษณะของเสียง จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ

4 ข้อควรรู้ก่อนติดตั้ง PU Foam เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง

เพื่อให้คุณลูกค้าเข้าใจในผลิตภัณฑ์อย่างครบถ้วน และมั่นใจในการตัดสินใจ เราขอให้ข้อมูลในประเด็นสำคัญที่ควรทราบก่อนการติดตั้ง ดังนี้ครับ

 

  1. การป้องกันผิวหน้าโฟมจากแสงแดด (UV)

โดยธรรมชาติแล้ว เนื้อโฟมจะไม่ทนต่อรังสียูวีโดยตรง ดังนั้นสำหรับงานภายนอก เช่น ดาดฟ้า จึงจำเป็นต้องมีการทาเคลือบผิวหน้า (Top Coat) เพื่อป้องกัน ซึ่งเป็นขั้นตอนมาตรฐานในงานของเราเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด

 

  1. คุณภาพของงานขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของช่าง

การพ่น PU Foam เป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยประสบการณ์สูง ตั้งแต่การผสมเคมีไปจนถึงเทคนิคการพ่น ดังนั้น การเลือกใช้บริการจากทีมช่างมืออาชีพและเชื่อถือได้ คือหัวใจสำคัญที่สุดที่จะรับประกันประสิทธิภาพของงาน

 

  1. เป็นการติดตั้งแบบถาวรเพื่อการใช้งานระยะยาว

เนื่องจาก PU Foam มีคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม การติดตั้งจึงเป็นการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว การรื้อถอนในอนาคตจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง

 

  1. อาจมีกลิ่นชั่วคราวหลังการติดตั้ง

หลังการฉีดพ่นเสร็จใหม่ๆ เป็นปกติที่อาจมีกลิ่นสารเคมีอยู่บ้าง ซึ่งกลิ่นจะจางหายไปเองภายใน 1-3 วัน เพียงแค่มีการเปิดระบายอากาศในพื้นที่อย่างเพียงพอครับ

ฉนวน PU Foam ไม่ได้มีขนาดที่ตายตัว แต่เราสามารถกำหนด “ความหนา” ในการพ่นให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่และวัตถุประสงค์การใช้งานได้ครับ โดยยิ่งความหนามาก ประสิทธิภาพในการป้องกันก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

ความหนาที่แนะนำสำหรับงานประเภทต่างๆ:

  • งานหลังคากันร้อน: ความหนา 3 – 5 ซม. (ประมาณ 1-2 นิ้ว)
    • เป็นความหนามาตรฐานที่เพียงพอสำหรับป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • งานดาดฟ้ากันรั่วซึม: ความหนา 5 – 8 ซม.
    • ต้องการความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างชั้นกันน้ำที่แข็งแรง ไร้รอยต่อ และทนทาน
  • งานผนังกันเสียง: ความหนา 5 – 10 ซม.
    • ความหนาที่มากขึ้นจะช่วยเพิ่มมวลของผนังและประสิทธิภาพในการดูดซับเสียงรบกวน
  • งานห้องเย็น / ห้องควบคุมอุณหภูมิ: ความหนา 8 – 12 ซม. ขึ้นไป
    • จำเป็นต้องใช้ความหนาสูงสุดเพื่อป้องกันการสูญเสียความเย็นและรักษาอุณหภูมิให้คงที่

ทีมงานของเราจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับความหนาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับหน้างานของคุณ เพื่อให้คุณได้รับประสิทธิภาพสูงสุดในงบประมาณที่คุ้มค่าครับ

PU Foam มีทั้งชนิดที่สามารถติดไฟได้และชนิดไม่ลามไฟครับ แต่สำหรับงานติดตั้งในอาคาร ที่อยู่อาศัย หรือโรงงาน เราเลือกใช้ PU Foam ชนิดไม่ลามไฟ (Fire Retardant) เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้า

คุณสมบัติของโฟมเกรดไม่ลามไฟคือ:

  • เมื่อสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรง เนื้อโฟมจะไหม้เป็นเถ้าถ่านเฉพาะจุด แต่จะไม่เกิดการลามของไฟต่อไปยังส่วนอื่น

  • ที่สำคัญที่สุด โฟมจะดับได้เองทันทีเมื่อนำแหล่งเชื้อเพลิงหรือต้นตอของไฟออก

การเลือกใช้วัสดุเกรดไม่ลามไฟคือมาตรฐานความปลอดภัยที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอครับ

สำหรับความต้องการด้านการทนไฟที่สูงเป็นพิเศษ: PU Foam vs PIR Foam

อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยจากอัคคีภัยที่เข้มงวดเป็นพิเศษ เช่น โรงงานบางประเภท หรือลูกค้าที่ต้องการคุณสมบัติด้านการทนไฟสูงสุด ยังมีวัสดุอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า PIR Foam (Polyisocyanurate) ซึ่งเป็นฉนวนที่มีความคล้ายคลึงกับ PU Foam แต่มีคุณสมบัติด้านการทนไฟที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน

  • PU Foam (เกรดไม่ลามไฟ): เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยและอาคารทั่วไป มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงและดับไฟได้เอง

  • PIR Foam: เหมาะสำหรับโรงงาน, คลังสินค้าเคมี, หรือพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันอัคคีภัยระดับสูงสุด เนื่องจากมีอัตราการเกิดควันที่ต่ำกว่าและทนต่อเปลวไฟได้ดีกว่า

หากโครงการของคุณมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยจากอัคคีภัยเป็นพิเศษ เราแนะนำให้ปรึกษาทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราโดยตรง เพื่อที่เราจะสามารถให้คำแนะนำและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของคุณได้ครับ

การเลือกความหนาที่เหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ปัญหาแต่ละประเภท เรามีคำแนะนำความหนามาตรฐานโดยประมาณ ดังนี้ครับ:

  • งานหลังคากันร้อน: ความหนา 1 – 2 นิ้ว (ประมาณ 2.5 – 5 ซม.)
  • งานดาดฟ้ากันรั่วซึม: ความหนา 2 – 3 นิ้ว (ประมาณ 5 – 8 ซม.)
  • งานผนังกันเสียง: ความหนา 2 – 4 นิ้ว (ประมาณ 5 – 10 ซม.)
  • งานห้องเย็น (ควบคุมอุณหภูมิ): ความหนา 3 – 5 นิ้ว (ประมาณ 8 – 12 ซม.)

คำแนะนำพิเศษสำหรับบ้านพักอาศัย

สำหรับบ้านโดยทั่วไป การพ่น PU Foam ใต้หลังคาด้วยความหนา 2 นิ้ว ถือเป็นจุดที่คุ้มค่าที่สุด เนื่องจากให้ประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนที่สูงมาก เพียงพอที่จะทำให้บ้านเย็นลงอย่างชัดเจน ในขณะที่ใช้งบประมาณที่เหมาะสมที่สุดครับ

Go to Top