

ด้วยประสบการณ์ฉนวนพียูโฟม กว่า 20 ปี 7,000 กว่าผลงาน
เรากล้าการันตี รับประกัน คุณภาพในทุกงาน
รับติดตั้งฉนวนพียูโฟม PU Foam Rigid Polyurethane Foam ทั่วประเทศ ฉนวนพียูโฟมสามารถป้องกันความร้อน กันเสียง กันรั่วซึม น้ำหนักเบา
เราเป็นผู้นำด้านการผลิตและติดตั้งฉนวนกันความร้อนและฉนวนกัน เสียง สำหรับโรงงาน โกดัง ห้องเย็น และอาคารทุกประเภท พร้อมบริการ พ่นฉนวนโดยทีมงานมืออาชีพกว่า 20 ปี ได้รับความไว้วางใจจากวิศวกร สถาปนิก และบริษัทชั้นนำ มั่นใจในคุณภาพผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัย พร้อมรับประกันผลงานและบริการหลังการขาย
สนใจบริการพียูโฟม
หรือสอบถามราคาได้เลยที่นี่
รวมบริการพียูโฟม ครบคลุมทุกประเภทความต้องการ
เลือกประเภทการติดตั้งพียูโฟมตามสถานที่ และอุปกรณ์ที่คุณต้องการติดตั้ง


สนใจบริการพียูโฟม
หรือสอบถามราคาได้เลยที่นี่
บทความ ความรู้เกี่ยวกับพียูโฟม
เคลียร์ทุกคำถามคาใจก่อนตัดสินใจพ่นพียูโฟม
- งานพ่นหลังคา (กันความร้อน) : ทำให้บ้านเย็น ประหยัดค่าแอร์
- ความหนา 1 นิ้ว (ประมาณ 2.5 ซม.) เริ่มต้น 220 บาท/ตร.ม.
- งานพ่นดาดฟ้า (กันรั่วซึม) : แก้ปัญหาเด็ดขาด ป้องกันระยะยาว
- ความหนา 2 นิ้ว (ประมาณ 5 ซม.) เริ่มต้น 370 บาท/ตร.ม.
- งานพ่นผนัง (กันเสียงรบกวน) : เพิ่มความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ
- ความหนา 2 นิ้ว (ประมาณ 5 ซม.) เริ่มต้น 350 บาท/ตร.ม.
ราคานี้เป็นราคาเบื้องต้นที่ รวมค่าวัสดุเกรดพรีเมียมและค่าแรงทีมช่างมืออาชีพ แล้วครับ ทั้งนี้ราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนตามขนาดพื้นที่จริงและสภาพหน้างาน เพื่อให้เหมาะสมกับบ้านของคุณมากที่สุด
- สำหรับงานหลังคาและดาดฟ้า (กันร้อน/กันรั่ว)
- ความแข็ง: แข็งแกร่ง ทนทาน และ สามารถเดินได้
- คำอธิบาย: เนื้อโฟมชนิดนี้ถูกออกแบบให้มีความหนาแน่นสูง เมื่อแห้งตัวเต็มที่แล้วจะแข็งแรงพอที่คนจะสามารถขึ้นไปเดินเพื่อซ่อมบำรุงได้ (บนโครงสร้างที่แข็งแรง) จึงทนทานต่อสภาพอากาศและใช้งานในพื้นที่ภายนอกได้เป็นอย่างดี (ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก แต่ภายนอกจำเป็นต้องทำสีป้องกันแสงยูวีให้กับหน้าโฟมเพื่อป้องกันไม่ให้โฟมเสื่อมสภาพเร็ว)
- สำหรับงานผนัง (กันเสียง)
- ความแข็ง: คงรูป แต่มีความยืดหยุ่นและนุ่มกว่า
- คำอธิบาย: ลักษณะจะคล้ายฟองน้ำอัดแน่น มีความยืดหยุ่นเพื่อทำหน้าที่ดูดซับคลื่นเสียงโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยลดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เราเลือกใช้ชนิดโฟมที่มีความแข็งเหมาะสมกับหน้างานเสมอ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ในประสิทธิภาพสูงสุดตามที่ต้องการครับ
(หรือสามารถใช้แบบผสมผสานกันได้ทั้งแบบ โฟมแข็งป้องกันเสียง โฟมนิ่ม ซัพเสียงก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพสูงครับ)
- การป้องกันผิวหน้าโฟมจากแสงแดด (UV)
โดยธรรมชาติแล้ว เนื้อโฟมจะไม่ทนต่อรังสียูวีโดยตรง ดังนั้นสำหรับงานภายนอก เช่น ดาดฟ้า จึงจำเป็นต้องมีการทาเคลือบผิวหน้า (Top Coat) ที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีทับอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นขั้นตอนมาตรฐานในงานของเราเพื่อปกป้องและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด
- คุณภาพของงานขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของช่าง
การพ่น PU Foam เป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยประสบการณ์สูง ตั้งแต่การผสมเคมีไปจนถึงเทคนิคการพ่นให้ได้ความหนาที่สม่ำเสมอ ดังนั้น การเลือกใช้บริการจากทีมช่างมืออาชีพและเชื่อถือได้ คือหัวใจสำคัญที่สุดที่จะรับประกันประสิทธิภาพของงาน
- เป็นการติดตั้งแบบถาวรเพื่อการใช้งานระยะยาว
เนื่องจาก PU Foam มีคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม การติดตั้งจึงเป็นการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว ที่คุ้มค่าสูงสุด
- อาจมีกลิ่นชั่วคราวหลังการติดตั้ง
หลังการฉีดพ่นเสร็จใหม่ๆ เป็นปกติที่อาจมีกลิ่นสารเคมีอยู่บ้าง ซึ่งกลิ่นเหล่านี้จะค่อยๆ จางและหายไปเองภายใน 1-2 วัน เพียงแค่มีการเปิดระบายอากาศในพื้นที่อย่างเพียงพอครับ
การให้ข้อมูลที่ครบถ้วนคือหน้าที่ของเรา เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับการติดตั้งที่มีคุณภาพและคุ้มค่าที่สุด
ความทนทานนี้มาจากคุณสมบัติหลัก 3 ประการ
การยึดเกาะดีเยี่ยม : เนื้อโฟมจะผสานเป็นเนื้อเดียวกับโครงสร้างเดิม ไม่ร่อน และไม่หลุดลอก
ไม่ยุบตัว ไม่เสื่อมสภาพ : โฟมจะคงความหนาและรูปทรงไว้ตลอดอายุการใช้งาน ทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันคงที่
ทนทานต่อความชื้น : ไม่ดูดซับน้ำ จึงไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา
ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาโดยการทาสีเคลือบดังกล่าวใหม่ ทุกๆ 10-15 ปี เพื่อยืดอายุการใช้งานและคงประสิทธิภาพสูงสุดไว้ครับ
ซึ่งอุณหภูมิดังกล่าวสูงกว่าความร้อนสะสมบนพื้นผิวหลังคาโดยทั่วไปในวันที่แดดจัดที่สุดของประเทศไทย คุณจึงมั่นใจได้ว่าฉนวน PU Foam จะคงสภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนได้อย่างเต็มที่ตลอดอายุการใช้งาน
ราคาการติดตั้งจะคิดเป็นต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ซึ่งจะแปรผันตามความหนาและประเภทการใช้งาน เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข โดยมีราคาประเมินเบื้องต้นดังนี้ครับ:
-
งานพ่นหลังคา (เน้นกันความร้อน)
-
ความหนา 1-2 นิ้ว: ราคาประมาณ 220 – 450 บาท/ตร.ม.
-
(โดยเฉพาะความหนา 2 นิ้ว เป็นขนาดที่ให้ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุด)
-
-
งานพ่นดาดฟ้า (เน้นกันรั่วซึมและความร้อน)
-
ความหนา 2-3 นิ้ว: ราคาประมาณ 350 – 600 บาท/ตร.ม.
-
ข้อควรทราบ: ราคาดังกล่าวเป็นราคาประเมินเบื้องต้นเท่านั้น ราคาจริงจะขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่โดยรวม (ยิ่งพื้นที่มาก ราคาต่อหน่วยอาจถูกลง) และสภาพความยากง่ายของหน้างาน
เพื่อให้ได้ราคาที่แม่นยำที่สุดสำหรับบ้านของคุณ เราแนะนำให้ติดต่อทีมงานเพื่อเข้าประเมินหน้างานและรับใบเสนอราคาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่มีข้อผูกมัดใดๆ
สามารถติดต่อได้ทันทีผ่าน LINE: @pufoamthai หรือ โทร. 086-428-0482 ครับ
ฉนวน PU Foam มอบคุณประโยชน์ที่ครอบคลุมให้กับการอยู่อาศัยของคุณ ดังนี้:
- กันร้อนเยี่ยม และช่วยประหยัดค่าไฟ
ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันความร้อนจากภายนอก ทำให้บ้านเย็นลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงและช่วยประหยัดค่าไฟได้จริง
- ป้องกันการรั่วซึม 100%
ด้วยเทคโนโลยีการพ่นที่ทำให้เนื้อโฟมเป็นชิ้นเดียวกัน ไร้รอยต่อ จึงสามารถอุดรอยรั่วซึมได้อย่างสมบูรณ์แบบ หมดปัญหาน้ำและความชื้นกวนใจ
- ลดเสียงรบกวนจากภายนอก
เนื้อโฟมช่วยดูดซับและลดทอนเสียง ทำให้บ้านเงียบสงบขึ้นอย่างรู้สึกได้ เหมาะสำหรับลดเสียงฝนที่ตกกระทบหลังคา หรือเสียงรบกวนรอบข้าง
- ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน
เนื้อโฟมมีความแข็งแรง ไม่ยุบตัว และใช้งานได้ยาวนาน 15-20 ปีขึ้นไป ถือเป็นการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่า
- น้ำหนักเบา ไม่เป็นภาระอาคาร
ถึงแม้จะแข็งแรงทนทาน แต่ PU Foam มีน้ำหนักเบามาก จึงไม่สร้างภาระเพิ่มเติมและไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเดิมของอาคาร
วัตถุดิบคุณภาพสูง: เราคัดสรรน้ำยาเคมีเกรดพรีเมียมนำเข้าจากต่างประเทศที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดทั้งในด้านการยึดเกาะและความทนทาน ที่สำคัญคือไม่ลามไฟ
ความเชี่ยวชาญในการติดตั้ง: ทีมช่างมืออาชีพคือผู้ที่เปลี่ยนวัตถุดิบที่ดีให้กลายเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การเตรียมพื้นผิว การผสมสูตร ไปจนถึงเทคนิคการพ่นที่ได้มาตรฐาน
เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือ ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและแก้ปัญหาได้จริง เราจึงมุ่งเน้นที่มาตรฐานการทำงานของเราเป็นสำคัญที่สุด
- การยึดเกาะดีเยี่ยม
เนื้อโฟมจะผสานเป็นเนื้อเดียวกับโครงสร้างเดิมอย่างสมบูรณ์ ทำให้ไม่เกิดการยุบตัว ไม่ร่อน และไม่หลุดลอกตลอดอายุการใช้งาน
- ทนทานต่อความชื้นและน้ำ
โฟมชนิดเซลล์ปิด (Closed-Cell) ที่ใช้ในงานหลังคาและดาดฟ้า มีคุณสมบัติกันน้ำ 100% จึงไม่ดูดซับความชื้นและไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา
- คงรูป ไม่เสื่อมสภาพ
โฟมจะคงความหนาและรูปทรงไว้ได้คงที่ ทำให้ค่าความเป็นฉนวนไม่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพการป้องกันจึงสม่ำเสมอ
- การปกป้องผิวหน้าด้วย Top Coat
สำหรับงานภายนอก การเคลือบผิวหน้าด้วยสีป้องกันรังสียูวี (UV) คือขั้นตอนมาตรฐานที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยปกป้องเนื้อโฟมจากการเสื่อมสภาพและรับประกันความทนทานในระยะยาว
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ คุณจึงมั่นใจได้ว่าการติดตั้ง PU Foam คือการลงทุนที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าและทนทานครับ
- โฟมเซลล์ปิด (Closed-Cell)
เป็นฉนวนชนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะแก้ปัญหาหลักของบ้านได้อย่างครอบคลุม
- คุณสมบัติเด่น : เนื้อโฟมมีความแข็งแรงและแน่นเป็นพิเศษ สามารถป้องกันได้ทั้งความร้อนและป้องกันน้ำซึมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- เหมาะกับงาน :
- พ่นใต้หลังคา/ดาดฟ้า : เพื่อป้องกันความร้อน ทำให้บ้านเย็นและประหยัดค่าไฟ
- งานแก้ปัญหารั่วซึม : สามารถอุดรอยร้าวและเป็นเกราะป้องกันน้ำได้ 100%
- โฟมเซลล์เปิด (Open-Cell)
ออกแบบมาเพื่องานป้องกันเสียงโดยเฉพาะ โดยสามารถลดเสียงสะท้อนและกันเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
- คุณสมบัติเด่น : เนื้อโฟมมีความนุ่มและโปร่งคล้ายฟองน้ำ จึงสามารถดูดซับเสียงได้ดีเยี่ยม ช่วยลดเสียงก้องและเสียงรบกวนจากภายนอก
- เหมาะกับงาน:
- พ่นผนังกันเสียง: สำหรับห้องนอน, โฮมเธียเตอร์, ห้องซ้อมดนตรี หรือห้องทำงานที่ต้องการความเงียบและเป็นส่วนตัว
- กันร้อนเยี่ยม และช่วยประหยัดค่าไฟ ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันความร้อนจากภายนอก ทำให้อุณหภูมิในบ้านเย็นลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงและช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้จริง
- ป้องกันการรั่วซึม 100% ด้วยเทคโนโลยีการพ่นที่ทำให้เนื้อโฟมเป็นชิ้นเดียวกัน ไร้รอยต่อ จึงสามารถอุดรอยแตกร้าวเล็กๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หมดปัญหาน้ำรั่วซึมกวนใจ
- ลดเสียงรบกวนจากภายนอก เนื้อโฟมทำหน้าที่ช่วยดูดซับเสียง ทำให้บ้านเงียบสงบขึ้นอย่างรู้สึกได้ เหมาะสำหรับลดเสียงฝนที่ตกกระทบหลังคา หรือเสียงรบกวนรอบข้าง
- เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้าง ในโฟมชนิดเซลล์ปิด (Closed-Cell) เนื้อโฟมจะช่วยยึดเกาะและเพิ่มความแข็งแรงให้กับวัสดุเดิม เช่น โครงหลังคาหรือผนังให้มั่นคงยิ่งขึ้น
- น้ำหนักเบา ไม่กระทบตัวบ้าน ถึงแม้จะแข็งแรงทนทาน แต่ PU Foam มีน้ำหนักเบามาก จึงไม่สร้างภาระเพิ่มเติมและไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเดิมของอาคาร
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ การติดตั้ง PU Foam จึงไม่ใช่แค่การแก้ปัญหา แต่คือการลงทุนเพื่อบ้านที่ดีกว่าในระยะยาวครับ
PU Foam ถูกออกแบบมาให้เป็นการติดตั้งแบบถาวรเพียงครั้งเดียว เมื่อฉีดพ่นแล้ว เนื้อโฟมจะยึดเกาะเป็นเนื้อเดียวกับโครงสร้างเดิม ทำให้มีความคงทนและอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก จึงไม่สามารถรื้อถอนเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้
เราเชื่อว่าผลงานที่มีคุณภาพและทนทาน มาจากปัจจัยสำคัญ 2 ส่วน คือ วัสดุที่ดีที่สุด และทีมติดตั้งที่เชี่ยวชาญที่สุด ซึ่งคุณสามารถมั่นใจในบริการของเราได้จากมาตรฐาน 3 ข้อนี้ครับ:
1. ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เราใช้ทีมช่างของเราเองที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ในงานพ่น PU Foam โดยตรง คุณจึงมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมผิวไปจนถึงการควบคุมความหนา จะถูกดำเนินการอย่างแม่นยำตามมาตรฐานสูงสุด
2. เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เราลงทุนในเครื่องจักรแรงดันสูงที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เนื้อโฟมผสมตัวได้อย่างสมบูรณ์ มีความหนาแน่นสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่ติดตั้ง และยึดเกาะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
3. การรับประกันผลงานที่ชัดเจนและยาวนาน เพื่อเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพและสร้างความอุ่นใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า การรับประกันผลงานของเราจึงครอบคลุมเป็นระยะเวลายาวนานถึง 10 ปี
เพราะเราไม่ได้แค่ “ติดตั้ง” แต่เรา “ส่งมอบมาตรฐานที่ดีที่สุด” ให้กับคุณ
เนื่องจาก PU Foam เป็นวัสดุสังเคราะห์ทางเคมี (Polymer) จึงไม่มีส่วนประกอบของเซลลูโลสซึ่งเป็นอาหารหลักของปลวก ทำให้ตัวโฟมเองไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูดปลวก
- โฟมเซลล์เปิด (Open-Cell): สำหรับ “การดูดซับเสียง”
ด้วยโครงสร้างที่โปร่งคล้ายฟองน้ำ จึงทำหน้าที่ดูดซับคลื่นเสียงที่ลอยในอากาศได้ดีเยี่ยม ช่วยลดเสียงก้องและเสียงพูดคุย
- เหมาะสำหรับ: ผนังกั้นห้อง, ห้องนอน, ห้องทำงาน, หรือโฮมเธียเตอร์
- โฟมเซลล์ปิด (Closed-Cell): สำหรับ “การลดเสียงกระทบ”
ด้วยเนื้อโฟมที่แข็งและหนาแน่น จะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงที่เกิดจากวัตถุที่มากระทบโดยตรง
- เหมาะสำหรับ: พ่นใต้หลังคาเมทัลชีท เพื่อลดเสียงดังเวลาฝนตกกระทบ
การเลือกใช้ชนิดโฟมที่ถูกต้องตามลักษณะของเสียง จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ
4 ข้อควรรู้ก่อนติดตั้ง PU Foam เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
เพื่อให้คุณลูกค้าเข้าใจในผลิตภัณฑ์อย่างครบถ้วน และมั่นใจในการตัดสินใจ เราขอให้ข้อมูลในประเด็นสำคัญที่ควรทราบก่อนการติดตั้ง ดังนี้ครับ
- การป้องกันผิวหน้าโฟมจากแสงแดด (UV)
โดยธรรมชาติแล้ว เนื้อโฟมจะไม่ทนต่อรังสียูวีโดยตรง ดังนั้นสำหรับงานภายนอก เช่น ดาดฟ้า จึงจำเป็นต้องมีการทาเคลือบผิวหน้า (Top Coat) เพื่อป้องกัน ซึ่งเป็นขั้นตอนมาตรฐานในงานของเราเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด
- คุณภาพของงานขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของช่าง
การพ่น PU Foam เป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยประสบการณ์สูง ตั้งแต่การผสมเคมีไปจนถึงเทคนิคการพ่น ดังนั้น การเลือกใช้บริการจากทีมช่างมืออาชีพและเชื่อถือได้ คือหัวใจสำคัญที่สุดที่จะรับประกันประสิทธิภาพของงาน
- เป็นการติดตั้งแบบถาวรเพื่อการใช้งานระยะยาว
เนื่องจาก PU Foam มีคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม การติดตั้งจึงเป็นการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว การรื้อถอนในอนาคตจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง
- อาจมีกลิ่นชั่วคราวหลังการติดตั้ง
หลังการฉีดพ่นเสร็จใหม่ๆ เป็นปกติที่อาจมีกลิ่นสารเคมีอยู่บ้าง ซึ่งกลิ่นจะจางหายไปเองภายใน 1-3 วัน เพียงแค่มีการเปิดระบายอากาศในพื้นที่อย่างเพียงพอครับ
ความหนาที่แนะนำสำหรับงานประเภทต่างๆ:
- งานหลังคากันร้อน: ความหนา 3 – 5 ซม. (ประมาณ 1-2 นิ้ว)
- เป็นความหนามาตรฐานที่เพียงพอสำหรับป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- งานดาดฟ้ากันรั่วซึม: ความหนา 5 – 8 ซม.
- ต้องการความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างชั้นกันน้ำที่แข็งแรง ไร้รอยต่อ และทนทาน
- งานผนังกันเสียง: ความหนา 5 – 10 ซม.
- ความหนาที่มากขึ้นจะช่วยเพิ่มมวลของผนังและประสิทธิภาพในการดูดซับเสียงรบกวน
- งานห้องเย็น / ห้องควบคุมอุณหภูมิ: ความหนา 8 – 12 ซม. ขึ้นไป
- จำเป็นต้องใช้ความหนาสูงสุดเพื่อป้องกันการสูญเสียความเย็นและรักษาอุณหภูมิให้คงที่
ทีมงานของเราจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับความหนาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับหน้างานของคุณ เพื่อให้คุณได้รับประสิทธิภาพสูงสุดในงบประมาณที่คุ้มค่าครับ
PU Foam มีทั้งชนิดที่สามารถติดไฟได้และชนิดไม่ลามไฟครับ แต่สำหรับงานติดตั้งในอาคาร ที่อยู่อาศัย หรือโรงงาน เราเลือกใช้ PU Foam ชนิดไม่ลามไฟ (Fire Retardant) เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้า
คุณสมบัติของโฟมเกรดไม่ลามไฟคือ:
-
เมื่อสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรง เนื้อโฟมจะไหม้เป็นเถ้าถ่านเฉพาะจุด แต่จะไม่เกิดการลามของไฟต่อไปยังส่วนอื่น
-
ที่สำคัญที่สุด โฟมจะดับได้เองทันทีเมื่อนำแหล่งเชื้อเพลิงหรือต้นตอของไฟออก
การเลือกใช้วัสดุเกรดไม่ลามไฟคือมาตรฐานความปลอดภัยที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอครับ
สำหรับความต้องการด้านการทนไฟที่สูงเป็นพิเศษ: PU Foam vs PIR Foam
อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยจากอัคคีภัยที่เข้มงวดเป็นพิเศษ เช่น โรงงานบางประเภท หรือลูกค้าที่ต้องการคุณสมบัติด้านการทนไฟสูงสุด ยังมีวัสดุอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า PIR Foam (Polyisocyanurate) ซึ่งเป็นฉนวนที่มีความคล้ายคลึงกับ PU Foam แต่มีคุณสมบัติด้านการทนไฟที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน
-
PU Foam (เกรดไม่ลามไฟ): เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยและอาคารทั่วไป มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงและดับไฟได้เอง
-
PIR Foam: เหมาะสำหรับโรงงาน, คลังสินค้าเคมี, หรือพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันอัคคีภัยระดับสูงสุด เนื่องจากมีอัตราการเกิดควันที่ต่ำกว่าและทนต่อเปลวไฟได้ดีกว่า
หากโครงการของคุณมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยจากอัคคีภัยเป็นพิเศษ เราแนะนำให้ปรึกษาทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราโดยตรง เพื่อที่เราจะสามารถให้คำแนะนำและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของคุณได้ครับ
- งานหลังคากันร้อน: ความหนา 1 – 2 นิ้ว (ประมาณ 2.5 – 5 ซม.)
- งานดาดฟ้ากันรั่วซึม: ความหนา 2 – 3 นิ้ว (ประมาณ 5 – 8 ซม.)
- งานผนังกันเสียง: ความหนา 2 – 4 นิ้ว (ประมาณ 5 – 10 ซม.)
- งานห้องเย็น (ควบคุมอุณหภูมิ): ความหนา 3 – 5 นิ้ว (ประมาณ 8 – 12 ซม.)
คำแนะนำพิเศษสำหรับบ้านพักอาศัย
สำหรับบ้านโดยทั่วไป การพ่น PU Foam ใต้หลังคาด้วยความหนา 2 นิ้ว ถือเป็นจุดที่คุ้มค่าที่สุด เนื่องจากให้ประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนที่สูงมาก เพียงพอที่จะทำให้บ้านเย็นลงอย่างชัดเจน ในขณะที่ใช้งบประมาณที่เหมาะสมที่สุดครับ